คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 41
น่าจะมาถามในพันทิพก่อนให้เงินหลานไปนะครับ ยอดเงินก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่เมื่อให้ไปแล้วก็ต้องทำใจว่าจะไม่ได้คืน เท่ากับให้ไปฟรีๆล่ะครับ
หากเป็นผม จะไม่ให้ตั้งแต่แรกๆแล้ว เพราะเหตุผลคือเล่นพนันบอล ซึ่งย่อมมีได้มีเสีย ยักยอกเงินบริษัทฯ มันไม่น่าสงสาร เล่นกันเกินตัว
แอบเสียดายเงิน จะปล่อยให้พ่อแม่เค้าไปจัดการเอาเอง
ตอนนี้คุณมีเงินเก็บ ก็ยังมีคุณค่า คิดถึงกันและแวะเวียนไปมาหาสู่กันปกติ แต่ต่อไปยามปลดเกษียณและไม่มีเงินเก็บ อาจจะกลายเป็น
หมาหัวเน่าและเดือดร้อนได้ จงพยายามสะสมเงินและเก็บออมไว้ ไหนจะเพื่อกินเพื่อใช้ประจำวัน ไหนจะเพื่อหยูกยา รักษาโรคภัยที่จะมา
เยี่ยมเยือนตามวัยอีก รักตัวเองให้มากๆครับ ใช้เงินอย่างมีสติ มีเหตุมีผล อนาคตจะได้สบาย...ไม่เป็นภาระให้ผู้อื่น
หากเป็นผม จะไม่ให้ตั้งแต่แรกๆแล้ว เพราะเหตุผลคือเล่นพนันบอล ซึ่งย่อมมีได้มีเสีย ยักยอกเงินบริษัทฯ มันไม่น่าสงสาร เล่นกันเกินตัว
แอบเสียดายเงิน จะปล่อยให้พ่อแม่เค้าไปจัดการเอาเอง
ตอนนี้คุณมีเงินเก็บ ก็ยังมีคุณค่า คิดถึงกันและแวะเวียนไปมาหาสู่กันปกติ แต่ต่อไปยามปลดเกษียณและไม่มีเงินเก็บ อาจจะกลายเป็น
หมาหัวเน่าและเดือดร้อนได้ จงพยายามสะสมเงินและเก็บออมไว้ ไหนจะเพื่อกินเพื่อใช้ประจำวัน ไหนจะเพื่อหยูกยา รักษาโรคภัยที่จะมา
เยี่ยมเยือนตามวัยอีก รักตัวเองให้มากๆครับ ใช้เงินอย่างมีสติ มีเหตุมีผล อนาคตจะได้สบาย...ไม่เป็นภาระให้ผู้อื่น
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คุณให้เงินไป 1.1 ล้าน แน่ใจหรือเปล่าว่า คือวิธีแก้ปัญหา
ปัญหาในกรณีนี้คืออะไร แน่ใจหรือเปล่าว่า คุณโฟกัสถูกต้อง
สิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเลย เพราะปัญหาของเรื่องอยู่ที่ นิสัยของหลาน เงินที่คุณใช้หนี้บริษัท จึงไม่ใช่ปัจจัยที่มีผลต่อการแก้นิสัยหลานคุณ เพราะฉะนั้น ผมจึงมองว่า คุณยังไม่ได้แก้ปัญหาเลย
คุณมองโลกแคบ แก้ปัญหาเฉพาะจุด โดยไม่รับผิดชอบต่อสังคมวงกว้าง คุณกลัวหลานติดคุก ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นคนไม่มีคุณภาพอยู่ในสังคม แต่คุณก็พยายามให้เขายังอยู่ได้ โดยไม่ต้องรับการลงโทษเมื่อกระทำผิด
ถามหน่อย การกระทำของคุณ เมื่อเทียบกับพ่อแม่ ที่ลูกไปกระทำผิด แล้วเอาเงินยัดตำรวจให้พ้นผิด ต่างกันตรงใหน
การแก้ปัญหา ถ้าถูกต้องทำนองครองธรรม ผู้แก้จะรู้สึกเบิกบาน แต่กรณีคุณกลับมีทุกข์เกิดขึ้นในใจ ย่อมประจักษ์ชัดอยู่แล้วว่า วิธีของคุณผิด
ปัญหาในกรณีนี้คืออะไร แน่ใจหรือเปล่าว่า คุณโฟกัสถูกต้อง
สิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเลย เพราะปัญหาของเรื่องอยู่ที่ นิสัยของหลาน เงินที่คุณใช้หนี้บริษัท จึงไม่ใช่ปัจจัยที่มีผลต่อการแก้นิสัยหลานคุณ เพราะฉะนั้น ผมจึงมองว่า คุณยังไม่ได้แก้ปัญหาเลย
คุณมองโลกแคบ แก้ปัญหาเฉพาะจุด โดยไม่รับผิดชอบต่อสังคมวงกว้าง คุณกลัวหลานติดคุก ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นคนไม่มีคุณภาพอยู่ในสังคม แต่คุณก็พยายามให้เขายังอยู่ได้ โดยไม่ต้องรับการลงโทษเมื่อกระทำผิด
ถามหน่อย การกระทำของคุณ เมื่อเทียบกับพ่อแม่ ที่ลูกไปกระทำผิด แล้วเอาเงินยัดตำรวจให้พ้นผิด ต่างกันตรงใหน
การแก้ปัญหา ถ้าถูกต้องทำนองครองธรรม ผู้แก้จะรู้สึกเบิกบาน แต่กรณีคุณกลับมีทุกข์เกิดขึ้นในใจ ย่อมประจักษ์ชัดอยู่แล้วว่า วิธีของคุณผิด
แสดงความคิดเห็น
ถ้าคุณเป็นผม คุณจะทำอย่างไรดี? ผมเครียดจังเลย